กลางธาตุ คือ อะไร

กลางธาตุ คือ อะไร

“การเจริญวิชชาชั้นสูง” ต้องผ่านการเจริญสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในสองระดับข้างต้นมาก่อนเพื่อเข้ามรรคผลนิพพาน ทั้ง “นิพพานถอดกาย” และ “นิพพานเป็น”

เมื่อได้คำนวณวิชชา ได้เร็วและแรง ละเอียดเข้าไปเพียงใด ก็จะยิ่งเข้าถึง “ธาตุล้วนธรรมล้วน” ฯลฯ ได้มากเพียงนั้น

เมื่อยิ่งทำวิชชาได้ละเอียดเข้าไป
จนถึง “ปราสาททำวิชชาของหลวงพ่อ” ก็จะพบธาตุธรรมของ หลวงพ่อ และ “กลางธาตุ” ทั้งหลายของหลวงพ่อ กำลังทำวิชชาสะสางธาตุธรรม และพระนิพพาน เพื่อช่วยสัตว์โลกทั้งหลายอยู่มิได้หยุดเลย

และเมื่อทำวิชชาละเอียดเข้าไป ก็จะทราบว่า หลวงพ่อ(สด) คือ “ต้นธาตุต้นธรรมภาคพระ” ซึ่งได้ถอยพืดกำเนิดธาตุธรรมเดิมมาสร้างบารมีเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลก ช่วยรื้อสัตว์ ขนสัตว์ที่ยังหลงติดอยู่ในไตรวัฏฏ์ให้เข้านิพพานเป็นอีกต่อไปนั้นเอง

ส่วนผู้ที่ช่วยเหลือทำวิชชาอยู่กับหลวงพ่อ ซึ่งจะเห็นอยู่โดยรอบ ๆ หลวงพ่อนั้น ชื่อว่า “กลางธาตุ” ของท่าน

บางรายก็ยังเป็น “กลางธาตุกายมนุษย์” (คือยังมีชีวิตเป็นมนุษย์) สร้างบารมี และทำหน้าที่เป็นทนายแก้ต่างพระศาสนาอยู่ บางท่านก็ล่วงลับไปแล้ว และว่าโดยที่จริงแล้ว
ผู้มีบารมีระดับกลางธาตุนั้นมีมาก แต่ปฏิบัติพระศาสนาไม่ตรงตามแนววิชชาธรรมกายของพระพุทธเจ้า

ก็เพราะว่า ภาคมารเขาพยายามปัดบังวิชชานี้
และภาคมารจะปัดเข้านิพพานถอดกาย (ถ้าเขาต้านทานบารมีไม่อยู่) เพื่อให้สิ้นฤทธิ์ ที่จะช่วยเหลือสัตว์โลก

บรรดากลางธาตุทั้งหลายเหล่านั้น จึงไม่ปรากฏอยู่ในผังปราสาทที่ทำวิชชาของหลวงพ่อ

อนึ่ง “กลางธาตุกายมนุษย์” บรรดาที่สร้างบารมี และทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบันนี้ หากปฏิบัติตรง และเจริญวิชชาชั้นสูงนี้ ก็จะพบอยู่ในปราสาทที่ทำวิชชาของหลวงพ่อ ตามฐานะของอำนาจ สิทธิ และสิทธิเฉียบขาด ในการปกครองธาตุธรรมของแต่ละท่าน

แต่ถ้าผู้ใดปฏิบัติไม่ตรง หลงกลทำประโยชน์ หรือเป็นฐานให้แก่ภาคมาร (เป็น “ฐานทัพ”ให้ฝ่ายมาร)

“ต้นธาตุต้นธรรม” ก็จะเก็บวิชชา อำนาจสิทธิของผู้นั้นเสีย แล้วอำนาจสิทธินั้นก็จะเปลี่ยนไปเป็นของ “ผู้ที่ปฏิบัติตรง” และสร้างบารมีสูงขึ้นมาแทนที่ใหม่ต่อไป.

* หลวงป๋า

แชร์เลย

Comments

comments

Share: